เจ้าชายวิลเลี่ยม ทรงบรรทมข้างถนนที่อุณหภูมิติดลบ4องศา
เจ้าชายวิลเลี่ยม ได้ทรงบรรทมข้างถนนในค่ำคืนที่อุณหภูมิติดลบถึง4องศา เมื่อ15ธ.ค.เพื่อให้สังคมตระหนักถึงความทุกข์ยากของวัยรุ่นที่ไร้ที่อยู่
สำนักพระราชวังอังกฤษเปิดเผยเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า เจ้าชายวิลเลี่ยม พระโอรสพระองค์ใหญ่ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ องค์มกุฏราชกุมารอังกฤษ และเป็นองค์รัชทายาทอันดับ 2 ของประเทศ ได้ทรงบรรทมข้างถนน ในค่ำคืนที่อุณหุภูมิติดลบถึง 4 องศาเซลเซียส ใต้สะพานแบล็คเฟรียร์ ในกรุงลอนดอนเมื่อ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงความทุกข์ยากของวัยรุ่นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย
ผู้ที่ติดตามคอยดูแลเจ้าชายวิลเลี่ยมขณะที่ออกมาบรรทมนอกพระราชวังก็คือ เซยี โอบากิน ผู้บริหารกลุ่มเซ็นเตอร์พ้อยต์ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ดูแลเรื่องปัญหาการไร้ที่อยู่อาศัยในอังกฤษ เนื่องจากเจ้าชายวิลเลี่ยมทรงเป็นองค์อุปถัมภ์มูลนิธิแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2548 สานต่องานของพระมารดาคือเจ้าหญิงไดอาน่าผู้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของเซ็น เตอร์พอยต์ ตอนที่สิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีสเมื่อปี 2540
ภาพที่เผยแพร่ในเว๊ปไซต์ของเซ็นเตอร์ พอยต์ แสดงให้เห็นเจ้าชายวิลเลี่ยมในกางเกงยีน กับรองเท้ากีฬา เสื้อคลุมแบบมีฮู้ดและหมวกไหมพรม ประทับยืนอยู่ถัดจากโอบากิน โดยมีถุงนอนอยู่ตรงปลายพระบาท โอบากินกล่าวว่าเจ้าชายบรรทมในถุงนอนโดยมีแผ่นลังกระดาษรองอยู่ข้างใต้ ส่วนอีกคนหนึ่งที่อยู่ด้วยเป็นเลขานุการส่วนพระองค์ชื่อ เจมี่ โลวเทอร์ พินเคอร์ตัน ผู้เคยเป็นทหารมาก่อน
โอบาคินเขียนในเว๊ปไซต์ว่า ได้พยายามเตรียมตัวอย่างระมัดระวังสุดที่จะทำได้ โดยหาที่เงียบสงบในตรอก มีถังขยะแบบมีล้อจำนวนหนึ่งบังอยู่ แต่ก็ไม่อาจป้องกันจากอากาศที่หนาวทารุณ พื้นคอนกรีตแข็งๆ หรือความกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับพวกนักค้ายา แมงดาหรือพวกก่อกวน และว่านาทีที่น่ากลัวที่สุด คือตอนที่พวกเขาสามคนเกือบถูกทับโดยรถกวาดถนนที่ไม่ทันเห็น และว่าเขาไม่เคยดีใจครั้งไหนมากเท่านี้เมื่อคืนขึ้นมาพบเช้าวันใหม่ ขณะที่โฆษกพระตำหนักเซ็นต์ เจมส์บอกว่า ทั้งสามคนได้นอนน้อยมาก
เจ้าชายวิลเลี่ยมตรัสเมื่อวันอังคารว่า หลังจากเสด็จออกไปบรรทมข้างถนนแค่คืนเดียว พระองค์ก็ทรงจินตนาการไม่ออกเลยว่า เป็นอย่างไรที่จะต้องนอนข้างถนนในกรุงลอนดอนคืนแล้วคืนเล่า พระองค์ตรัสว่าความยากจน อาการป่วยทางจิต การติดยาและติดเหล้า รวมทั้งปัญหาบ้านแตกทำให้ผู้คนต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน ทรงหวังว่า การออกไปใช้ชีวิตแบบนั้น จะทำให้ทรงเข้าพระทัยปัญหาลึกซึ้งมากขึ้น และสามารถช่วยคนที่เปราะบางเหล่านี้ได้มากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น